Premiere league | Indyfreekick

เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน จัดทัพใหญ่ “ผีแดง” แมนฯ ยูไนเต็ด ประเดิมเส้นทางล่าแชมป์พรีเมียร์ลีก ซีซัน 2010/11 ด้วยการเปิดบ้านชน “สาลิกาดง” นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด น้องใหม่หน้าเก่า โดยเจ้าบ้านให้ ปาทริซ เอฟรา แบ็กซ้ายตัวแกร่งคืนทีม ขณะที่ หลุยส์ นานี ได้เลื้อยทางริมเส้น แนวรุกใช้บริการ ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ กับ เวย์น รูนีย์ ด้านทีมเยือนกุนซือ คริส ฮิวจ์ตัน วางหมากอัดกลางแน่น 5 ตัว อลัน สมิธ ได้คืนถิ่นเก่า เควิน โนแลน สวมปลอกแขนกัปตันทีมสนับสนุนเกมรุกอยู่ด้านหลัง แอนดรูว์ คาร์โรลล์ หัวหอกร่างใหญ่

แมนฯยูไนเต็ด – นิวคาสเซิ่ล Http://indyfreekick.wordpress.com/ – Funny bloopers R us

แมนยู 3-0 นิวคาสเซิ่ล Http://indyfreekick.wordpress.com/ – The best home videos are here

เริ่มเกมการแข่งขัน แมนฯ ยูไนเต็ด เป็นฝ่ายครองบอลพยายามทำเกมบุกแต่ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด กางขุมกำลังในแดนรับไว้อย่างแน่นหนา ทำให้ เวย์น รูนีย์ ต้องถ่างออกมาด้านซ้ายก่อนทำชิ่งกับ หลุยส์ นานี แล้วตัดเข้ามาในปั่นด้วยขวาบอลเหินข้ามคานไป แต่นาทีที่ 10 ทีมเยือนเกือบช็อกแฟนๆ ในโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เมื่อ แอนดี คาร์โรลล์ โผเข้ามาโขกลูกเตะมุมเต็มๆ แต่บอลไม่ตรงกรอบอย่างน่าเสียดาย จากนั้นเป็นเจ้าถิ่นที่ขึงเกมหนักขึ้น รูนีย์ ได้ยิงในกรอบโทษทว่าโดนกองหลังผู้มาเยือนลงมาบล็อกได้ทัน “สาลิกาดง” เน้นเกมตั้งรับเป็นหลัก แต่จังหวะสวนก็ทำได้น่ากลัวไม่น้อย คาร์โรลล์ ลองซัดไกลจากนอกกรอบเข้าซอง เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์

“ผีแดง” ก็เบิกสกอร์นำ 1-0 จนได้ วาเลนเซีย อาศัยความขยันฉกบอลได้ในแดนคู่แข่งก่อนจ่ายให้ พอล สโคลส์ แทงทะลุ เบอร์ตอฟ หลุดเข้าไปซัดเน้นๆ ผ่านมือ สตีฟ ฮาร์เปอร์ เข้าไป ก่อนจบครึ่งแรก 4 นาที แมนฯ ยูไนเต็ด หนีเป็น 2-0 ปาทริซ เอฟรา เติมขึ้นมาไหลบอลเข้าใน รูนีย์ จับไม่อยู่ แต่เป็นดีตั้งให้ ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ ส่องจ่อๆ ไม่เหลือ จบครึ่งแรกเจ้าถิ่นถือความได้เปรียบ

ครึ่งหลัง นิวคาสเซิล ยังต้องตั้งรับต่อไปเมื่อ แมนฯ ยูไนเต็ด ยังไม่ยอมเพลาเกมบุกการประสานงานอันยอดเยี่ยมเกือบนำมาซึ่งประตูที่สามของ “ผีแดง” สโคลส์ แทงทะลุให้ รูนีย์ ชิ่งเร็ว เบอร์บาตอฟ หลุดเข้าไปยิงบอลผ่านมือ ฮาร์เปอร์ แต่ก็ผ่านเสาประตูไปเช่นกัน หนึ่งชั่วโมงพอดี เอฟรา เปิดบอลให้ รูนีย์ แปกระแทกส่งลูกหนังตุงตาข่าย แต่แฟนๆ “ผีแดง” ต้องเฮเก้อกันไป เมื่อผู้ช่วยผู้ตัดสินยกธงล้ำหน้าแบ็กซ้ายทีมชาติฝรั่งเศสไปก่อนหน้านี้แล้ว

จากนั้น เฟอร์กี ถอดเอา รูนีย์ มาพักพร้อมกับส่ง ฮาเวียร์ “ชิราริโต” เฮอร์นานเดซ ลงมาล่าตาข่ายแทน เมื่อเกมเป็นรองมหาศาล คริส ฮิวจ์ตัน จัดแจงปรับหมากให้ นิวคาสเซิล ด้วยการส่ง โชลา อเมโอบี ลงมาแทน เควิน โนแลน เป็นการเติมเกมรุก ขณะที่เจ้าบ้านใส่ ไรอัน กิกส์ มาเสริมแดนกลางถอด นานี ออกมา และทีมเยือนก็มีลุ้นบ้าง อเมโอบี โหนโขกลูกเตะมุมไม่ตรงเป้าหมาย ท้ายเกมรองแชมป์เก่าน่าได้ประตูตอกฝาโลง เบอร์บาตอฟ อาศัยเทคนิคล็อกเข้ายิงติดเซฟ ฮาร์เปอร์ แต่ก่อนหมดเวลา 5 นาที “ผีแดง” ย้ำชัย 3-0 จากการวอลเลย์เข้าไปอย่างสุดสวยของ กิกส์ จบเกมจึงเก็บสามแต้มประเดิมชัยแมตช์แรกของซีซั่นไปอย่างสวยงาม

credit manager.co.th

ไฮไลท์ ลิเวอร์พูล – อาร์เซน่อล HQ

Posted: August 15, 2010 in Premiere league, Uncategorized
Tags: คลิป ลิเวอร์พูล 1-1 อาร์เซน่อล, คลิป ไฮไลท์ ลิเวอร์พูล - อาร์เซน่อล, พรีเมียร์ลีก, ลิเวอร์พูล

ไฮไลท์ ลิเวอร์พูล – อาร์เซน่อล HQ
ไฮไลท์ แบบ HD นาน 10 นาที

ลิเวอร์พูล – อาร์เซน่อล Http://indyfreekick.wordpress.com/ – Funny bloopers R us

คลิปแบบ 3 นาที

ไฮไลท์ ลิเวอร์พูล – อาร์เซน่อล HQ – The funniest videos clips are here

รอย ฮ็อดจ์สัน นำพลพรรค “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ประเดิมพรีเมียร์ลีก ซีซันใหม่ ด้วยการเปิดแอนฟิลด์ รับมือ “ปืนใหญ่” อาร์เซนอล คู่แข่งสำคัญ นัดนี้เจ้าบ้านได้แข้งตัวหลักจากศึกฟุตบอลโลก 2010 กลับมาครบครันทั้ง โฆเซ เรนา, เดิร์ก เคาท์ หรือ ฮาเวียร์ มาสเชราโน ที่ร่ำๆ มีข่าวย้ายทีม โดยแนวรุกใช้ โจ โคล สนับสนุนอยู่ด้านหลัง ดาวิด เอ็นก็อก ขณะที่ เฟร์นานโด ตอร์เรส รอโอกาสอยู่ข้างสนาม ด้าน อาร์แซน เวนเกอร์ วางผู้เล่นชุดดีที่สุดมาเยือน ตัวใหม่อย่าง โลร็องต์ คอสเซลนี กับ มารูยาน ชามัคห์ ได้ลงเล่นอย่างเป็นทางการ อาบู ดิยาบี ฟิตสมบูรณ์ค้ำแผงมิดฟิลด์ ซาเมียร์ นาสรี และอังเดร อาร์ชาวิน คอยสร้างสรรค์เกมรุกให้ ชามัคห์ ที่ห้อยเป็นตัวเป้าได้ลุ้นสกอร์

เริ่มเกมการแข่งขันทั้งสองฝ่ายยังไม่ผลีผลามเร่งเกม แต่นาทีที่ 5 อาร์เซนอล ได้โอกาสก่อนจากฟรีคิกระยะกว่า 30 หลา โธมัส เฟอร์มาเลน ตะบันเต็มข้อด้วยซ้ายร้อนถึง โฆเซ เรนา ต้องพุ่งปัดบอลออกไป จากนั้น ลิเวอร์พูล เดินเกมขึ้นมาบ้างเน้นบอลทางกราบ มิลาน โยวาโนวิช กับ เดิร์ค เคาท์ เปิดบอลฉวัดเฉวียนเข้ามาในกรอบโทษแต่ มานูเอล อัลมูเนีย ยังรับได้ติดหนึบ แม้การครองบอลเป็นทีมเยือนเหนือกว่า แต่ดูเหมือน “หงส์แดง” จะวูบวาบกว่า เคาท์ แทงทะลุให้ เกล็น จอห์นสัน ที่เติมขึ้นมาเปิดบอลจากสุดเส้นหลังไปหน้าประตู ข้ามศีรษะเพื่อนไปหมด ถัดมา มารูยาน ชามัคห์ ตะลุยเข้ากรอบโทษ สตีเวน เจอร์ราร์ด กัปตัน “หงส์แดง” ตามมาทิ่มบอลให้ เรนา เคลียร์พ้นอันตรายไปได้
ผ่านครึ่งทางของครึ่งแรก อาร์เซน่อล ได้โอกาสอีกครั้ง เฟอร์มาเลน เติมขึ้นมาโขกลูกเตะมุมเหินข้ามคาน นาทีที่ 27 แฟนๆ “ปืนใหญ่” ร้องหาจุดโทษจากผู้ตัดสิน มาร์ติน แอ็ตกินสัน เมื่อเห็น ชามัคห์ โดนเหนี่ยวล้มในกรอบโทษโดย เจมี คาร์ราเกอร์ แต่ไม่มีเสียงนกหวีดยาวดังออกมาแต่อย่างใด ครึ่งชั่วโมงพอดี กาแอล กลิชี ตัดบอลได้ก่อนยิงไกลด้วยซ้ายบอลพุ่งโด่งเกินไปอีก เจ็ดนาทีถัดมาบอลสาดจากหลัง โจ โคล ปล่อยให้ โยวาโนวิช เล่นบอลจึงไม่ล้ำหน้า แต่ตัวรุกทีมชาติเซอร์เบียพักอกก่อนซัดบอลหลุดกรอบแบบไม่ได้ลุ้น นาทีสุดท้าย ลิเวอร์พูล มีโอกาสแบบจะแจ้งจากความสามารถของ จอห์นสัน ลากตัดจากกราบขวาเข้ามายิงด้วยซ้าย อัลมูเนีย ปัดพ้นคาน จากลูกเตะมุม ดาวิด เอ็นก็อก ขึ้นโหม่งกำลังจะเสียบเสา แต่โดน กลิชี เคลียร์ทิ้งหวุดหวิด ถึงช่วงทดเจ็บมีจุดเปลี่ยนเกิดขึ้นเมื่อ โคล เสียบช้าใส่ โลร็องต์ คอสเซลนี โดนใบแดงไล่ออกจากสนาม จบ 45 นาทีแรก แม้สกอร์ยังเสมอกัน 0-0

ครึ่งหลังได้เพียงแค่นาทีเดียว “หงส์แดง” ที่มีผู้เล่นแค่ 10 คน กลับเป็นฝ่ายขึ้นนำ 1-0 ฮาเวียร์ มาสเชราโน ตัดบอลได้ก่อนแทงทะลุช่องให้ เอ็นก็อก ตะบันเต็มข้อด้วยขวาบอลพุ่งแสกหน้า อัลมูเนีย เสียบตาข่ายอย่างงดงาม จากนั้นเจ้าถิ่นดูเล่นกันอย่างคึกคักขึ้นมาทันที สตีเวน เจอร์ราร์ด เปิดฟรีคิกให้ มาร์ติน สเคอร์เทล โฉบเข้ามาขวิดบอลตัดหน้า อัลมูเนีย แต่บอลหลุดเสาไป นาทีที่ 55 ลิเวอร์พูล บุกกดดันจนได้ฟรีคิกอีกครั้ง “สตีวี จี” ตักให้ เอ็นก็อก เหินขึ้นโหม่งแต่บอลไม่ตรงเป้าหมาย อาร์แซน เวนเกอร์ ขยับเปลี่ยนตัวส่ง ธีโอ วัลคอตต์ และโทมัส โรซิคกี ลงมาทำเกมบุกแทน แจ็ค วิลเชียร์ กับ เอ็มมานูเอล เอบูเอ เมื่อผ่านหนึ่งชั่วโมงเต็ม จากนั้น รอย ฮ็อดจ์สัน ปรับหมากเช่นกันส่ง มักซี โรดริเกซ ลงมาเก็บบอลทางริมเส้นแทนโยวาโนวิช

นาทีที่ 68 อาร์เซน่อล ดันเกมขึ้นมาบ้าง โรซิคกี เปิดให้ เฟอร์มาเลน เติมขึ้นมาขวิดบอลหลุดกรอบ ถัดมาทีมเยือนได้ฟรีคิกระยะหวังผลกลางประตู 25 หลา วัลคอตต์ ปั่นด้วยขวาอ้อมกำแพงให้ เรนา ต้องโชว์ซูเปอร์เซฟพุ่งปัดพ้นโคนเสา จากนั้น “หงส์แดง” ถอดเอา เอ็นก็อก ซึ่งวิ่งไล่จนเหนื่อยออกมาพัก พร้อมกับให้ เฟร์นานโด ตอร์เรส ลงมาเรียกความฟิตเพิ่มเติม เข้าสู่ช่วง 15 นาทีสุดท้าย ผู้มาเยือนทิ้งไพ่ใบสุดท้ายเติม โรบิน ฟาน เพอร์ซี เสริมเกมรุก ถอดเอา ดิยาบี ที่เป็นมิดฟิลด์ตัวรับออกมา ก่อนหมดเวลา 5 นาที “ปืนใหญ่” น่าจะได้ประตูตีเสมอเป็นที่สุด โรซิคกี เล่นชิ่งหนึ่งสองกับ ชามัคห์ หลุดเข้าไปปั่นเน้นๆ ในกรอบโทษ เรนา ปัดปลายมือพ้นคานไปได้อย่างยอดเยี่ยม แต่นาทีสุดท้ายทีมเยือนไล่เจ๊า 1-1 อย่างโชคช่วย โรซิคกี สาดบอลไปหน้าประตู ชามัคห์ ใช้ตัวโฉบบอลไปชนเสากระดอนโดน เรนา เข้าประตูตัวเอง ช่วงทดเจ็บ เจอร์ราร์ด ได้ส่องฟรีคิกเน้นๆ อัลมูเนีย พุ่งป้องกันไว้ได้ จากนั้น คอสเซลนี มาโดนใบเหลือง-แดงไล่ออกจากสนามจากจังหวะตัดเกม แต่ครบ 90 นาทีไม่มีฝ่ายใดทำเพิ่มกันได้แบ่งกันทีมละแต้ม